อัพเดทที่เที่ยวยอดนิยมแม่ฮ่องสอน 2567/2024

แม่ฮ่องสอนมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย วันนี้เราได้ อัพเดทที่เที่ยวยอดนิยมแม่ฮ่องสอน 2567 มาให้ทุกท่านได้วางแผนก่อนออกเดินทาง เมื่อนึกถึงจังหวัดท่องเที่ยวทางภาคเหนือ แม่ฮ่องสอนเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่อยู่ในใจของนักเดินทางหลายๆ คน เพราะเมืองเล็กๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดวามบริสุทธิ์ เนื่องจากเป็นเมืองที่รายล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อน จึงถูกปกคลุมด้วยหมอกตลอดทั้งปี จนได้รับฉายาว่า 'เมืองสามหมอก' หรือ 'สวิตเซอร์เเลนด์เมืองไทย' 

แม่ฮ่องสอนมีภูมิประเทศที่สวยงาม มีความหลากหลายด้านวัฒนธรรม และความหลากหลายของประชากร ไม่ว่าจะเป็นไทใหญ่, กะเหรี่ยง ลาหู่หรือมูเซอ, ลีซูหรือลีซอ, ลัวะ หรือ ละว้า, ม้ง, จีนยูนนาน และปะโอ อีกทั้งความเรียบง่ายของวิถีชีวิตชุมชนก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่น่าหลงใหล เดี๋ยวนี้การเดินทางมาแม่ฮ่องสอนก็สะดวกสบายเพราะมีสายการบินนกแอร์เปิดเที่ยวบินตรงจากสนามบินดอนเมืองมาแม่ฮ่องสอนตลอดทั้งปี สามารถเที่ยวแม่ฮ่องสอนได้ทุกฤดูกาลไม่ใช่เฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น โดยเฉพาะในฤดูฝนที่เขียวขจี แม่ฮ่องสอนก็น่าไปเที่ยวเช่นเดียวกัน  

อ่าน : Green Season เที่ยวหน้าฝนเมืองแม่ฮ่องสอน    

20 ที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน อัพเดท 2567  

ดอยพุยโค

ดอยพุยโค หรือที่เรียกกันว่า ดอยพุย ภาษาท้องถิ่นของชาวกะเหรี่ยง ตั้งอยู่ที่บ้านอุมดาเหนือ ตำบลแม่คะตวน อำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน มีความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 1,406 เมตร การขึ้นไปบนดอยนั้น รถทุกชนิดไม่สามารถขึ้นไปได้ ต้องใช้การเดินเท้าเท่านั้น ระยะทางประมาณ 800 เมตร ใช้เวลาราว 30-40 นาที  บนดอยพุ่ยโคมีทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับทะเลหมอกในตอนเช้า และชมพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น รวมทั้งยังสามารถกางเต็นท์นอนค้างคืน เพื่อรอชมดาวในตอนค่ำได้อีกด้วย อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ใครๆ ก็ต้องแวะมาถ่ายรูปนั่นก็คือ "ต้นเดียวดาย" ต้นไม้ที่ตั้งตระหง่านอยู่อย่างเดียวดาย รอให้นักท่องเที่ยวแวะมาเยี่ยมชม

นอกจากนี้ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ทุ่งหญ้าบนดอยยังเปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้ม มองแล้วสวยงามแปลกตาทีเดียว สำหรับผู้ที่อยากกางเต็นท์บนดอยพุ่ยโคต้องนำเต็นท์มาเอง รวมทั้งอาหารด้วย เนื่องจากด้านบนไม่มีบริการให้เช่าเต็นท์ และไม่มีร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกด้านบนมีเพียงห้องสุขาเท่านั้น ซึ่งปริมาณน้ำก็มีจำกัด ต้องใช้น้ำอย่างประหยัด

จุดชมวิวกลอเซโล

กลอเซโลเป็นสถานที่ชมทะเลหมอกแห่งใหม่ที่น้อยคนจะเคยได้ยินชื่อ อยู่สุดชายแดนติดประเทศเมียนมา กลอเซโลเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ที่ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านตามแนวชายแดนที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและทะเลหมอก หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งขึ้นตามยุทธศาสตร์ความมั่นคงชายแดน ตลอดทางเข้าหมู่บ้านต้องใช้รถ 4x4 เท่านั้น เส้นทางลัดเลาะไปตามขุนเขา และผ่านแม่น้ำสาละวิน มีจุดชมวิวให้แวะถ่ายรูป ประชากรที่นี่ประกอบด้วยชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ร้อยละ 90 ประกอบอาชีพทำการเกษตร ทำไร่หมุนเวียน ส่วนมากจะมีฐานะยากจน ชุมชนทั้งหมดจะอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสาละวิน จุดชมวิวอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กม. และเป็นจุดกางเต็นท์ที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ นอกจากห้องน้ำ ที่นี่มีหมอกเกือบทุกวัน กลางวันมีทะเลภูเขา ตอนเย็นดูพระอาทิตย์ตกดิน ส่วนกลางคืนนั่งดูทะเลดาว พอตื่นเช้ามาก็๋เจอทะเลหมอก หากมีโอกาสมาเยือน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ต้องแวะมาเช็คอิน กางเต็นท์นอนที่กลอเซโล...ทะเลหมอกสองแผ่นดิน

อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย – ญี่ปุ่น

อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย - ญี่ปุ่น สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งศึกษาทางประวัติศาสตร์พื้นที่นับตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงยุคสร้างบ้านสร้างเมืองและเน้นหนักในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามมหาเอเชียบูรพา เนื่องจากสงครามมีผลกระทบกับคนในพื้นที่ อ.ขุนยวม ภายในอนุสรณ์สถานแห่งนี้มีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และอาวุธของกองทัพทหารญี่ปุ่นที่ถูกค้นพบมาจัดแสดง มีทั้งอาวุธปืนชนิดต่างๆ กระสุนหลายขนาด ระเบิดหลายชนิด มีดดาบซามูไรแม้จะมีอายุเก่าแก่ แต่ก็ยังคงความคมกริบไว้ให้เห็น ชุดทหาร เครื่องใช้ต่างๆ แสดงแบบจำลองพื้นที่เดินเท้าของกองทัพ เป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ของที่นี่บรรยากาศภายในให้ความรู้สึกนึกถึงอดีตช่วงสงครามและความโหดร้ายในครานั้น ที่สำคัญที่สุดคือป้ายผ้าไหมญี่ปุ่น ขนาด 0.5X2 เมตร ซึ่งมีข้อความลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตที่ทรงประทานให้แก่กองทัพญี่ปุ่น มีเนื้อความกล่าวถึงเหตุผลที่ญี่ปุ่นต้องเข้าร่วมสงครามโลก กล่าวกันว่ามีเพียง 5 ผืนในโลก นอกจากของใช้ต่างๆ ของทหารญี่ปุ่นแล้ว บริเวณชั้นล่างก็มีห้องนิทรรศการแสดงวิถีชีวิตของชาวขุนยวม การสร้างบ้านลักษณะต่างๆ ตามรูปแบบวัฒนธรรมของชนเผ่า

ทุ่งดอกบัวตอง

ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ ถือเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่กว่า 500 ไร่ จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีลักษณะเป็นทิวเขาสูงสลับกับทุ่งดอกบัวตอง โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ของทุกปี เมื่อลมหนาวเข้ามาเยือนเมืองสามหมอก ดอกบัวตองนับแสนนับล้านที่อยู่ที่นี่ก็จะบานสะพรั่งพร้อม ๆ กัน ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศให้เข้ามาเยือน และชมความงดงามของท้องทุ่งสีเหลืองอร่าม ที่ดูราวกับว่าทั่วทั้งภูเขาถูกปูด้วยพรมสีเหลืองผืนยักษ์ ถือเป็นหนึ่งในอะเมซิ่งไทยแลนด์ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตควรหาโอกาสไปชมให้ได้

หมู่บ้านรักไทย

หมู่บ้านรักไทย บ้านน้อยในป่าใหญ่แห่งนี้ เป็นหมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งหลายคนรู้จักกันดีในอีกนามว่า "บ้านแม่ออ" โดยชาวจีนยูนนานส่วนใหญ่ของหมู่บ้านนี้ได้อพยพหนีภัยคอมมิวนิสต์มาจากทางตอนใต้ของประเทศจีนในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พวกเขาได้สร้างหมู่บ้านกลางผืนป่าที่โอบล้อมด้วยขุนเขาที่เต็มไปด้วยไอหมอกยามเช้าและสายลมเย็นอันสดชื่น

ปัจจุบันหมู่บ้านรักไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของแม่ฮ่องสอน พื้นที่ของบ้านรักไทยเหมาะกับการปลูกชาพันธุ์ดี และพืชเมืองหนาวอีกด้วย ที่นี่จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่องของ ชา และ ขาหมูหมั่นโถว

อ่านบทความ : รีวิวที่พักบ้านรักไทย

ปางอุ๋ง

ปางอุ๋ง ได้รับการขนานนามว่า สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ด้วยเพราะความงามของทิวสนลำต้นสูงใหญ่รายล้อมอ่างเก็บน้ำที่สงบนิ่ง อากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี และเหล่าหงส์ที่ว่ายน้ำคลอเคลียกันไม่ห่าง 

ปางอุ๋งมีชื่อเต็มว่า โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) อันเป็นโครงการเนื่องในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวเขามีความเป็นอยู่ดีขึ้น รวมถึงฟื้นฟู และอนุรักษ์ธรรมชาติให้มีความสมบูรณ์ยั่งยืน เมื่อมาเที่ยวปางอุ๋งแล้ว อย่าลืมแวะชิมกาแฟที่ร้านลุงปาละ คอฟฟี่ เฮ้าส์ (Pala Coffee House) อยู่ห่างจากปางอุ๋งเพียง 300 เมตร กาแฟที่นี่เป็นกาแฟรสดั้งเดิม กาแฟคั่วมือเองกลิ่นหอมกรุ่น รสเข้มจนคอกาแฟยกให้เป็นตำนานกาแฟสดแห่งปางอุ๋ง บรรยากาศภายในร้านมีกอไผ่ยักษ์คู่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ บรรยากาศร่มรื่น 

สะพานซูตองเป้

สะพานซูตองเป้ สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของพระภิกษุ สามเณร และชาวบ้าน โดยคำว่า 'ซูตองเป้' เป็นภาษาไทยใหญ่ แปลว่า 'สะพานแห่งความสำเร็จ' มีความเชื่อกันว่า เมื่อได้มายืนอยู่กลางสะพานแห่งนี้ แล้วอธิษฐานขอพร ก็จะพบกับความสำเร็จ สมหวัง ตามปรารถนา นับว่าเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสวยงาม ใกล้ชิดธรรมชาติ และได้ชื่นชมวิถีชีวิตของชาวบ้านท้องถิ่น ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน 

วัดพระธาตุดอยกองมู

ปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองของแม่ฮ่องสอน สัญลักษณ์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ทุกคนต้องแวะเวียนไปเยี่ยมชมและสักการะ จากวัดสามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน วัดพระธาตุดอยกองมูประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดยจองต่องสู่ เมื่อ พ.ศ. 2403 เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่งนำมาจากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดยพระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนองค์แรก 

วัดจองคำ วัดจองกลาง

วัดจองคำ วัดจองกลาง เป็นวัดที่มีความสำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่ในรั้วกำแพงเดียวกัน ใกล้กับสวนสาธารณะหนองจองคำ และถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน ภายในวิหารวัดจองคำ ประดิษฐานหลวงพ่อโต สร้างโดยช่างชาวพม่าเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีขนาดหน้าตักกว้าง 4.85 ม. จำลองมาจากพระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต) ที่วัดสุทัศน์เทพวราราม วิหารแห่งนี้มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบไทใหญ่ผสมฝรั่ง อาคารมีผังเป็นรูปตัวแอล ผนังก่ออิฐถือปูน ประตู หน้าต่างตอนบนโค้ง ประดับลวดลายแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก หลังคามุงสังกะสี เชิงชายมีลูกไม้ฉลุแบบขนมปังขิง และภายในวิหารวัดจองกลาง มีแท่นบูชาตั้งพระพุทธสิหิงค์จำลอง ปิดทองเหลืองอร่ามไปทั้งองค์ และยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงตุ๊กตาไม้แกะสลักเป็นรูปคนและสัตว์ ฝีมือแกะสลักของช่างชาวพม่า ซึ่งนำมาจากพม่าตั้งแต่ พ.ศ. 2400

ตลาดสายหยุด

ตลาดสายหยุด เป็นตลาดสำคัญของชาวเมืองแม่ฮ่องสอน ในสมัยก่อนตลาดสดแห่งนี้เปิดตอนประมาณตี 4 และเลิกประมาณ 8 โมงเช้า จึงได้ชื่อว่า ตลาดสายหยุด
แต่ปัจจุบันนี้เปิดขายทุกวั้นตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายๆ ช่วงเช้าตลาดจะเต็มไปด้วยความคึกคัก จากผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอยมากมายทั้งชาวเมืองแม่ฮ่องสอน ชาวเขา และนักท่องเที่ยว สำหรับสินค้าภายในตลาดสายหยุด มีทั้งข้าวของเครื่องใช้ เครื่องแต่งกายแบบพื้นเมือง เช่นหมวกกุบไต หรืออาหารดั้งเดิมของชาวแม่ฮ่องสอนเช่น ตำขนุน แกงกระด้าง อุ๊บ (ไก่,ไข่) เต้าเฟิน แกงฮังเล ถั่วเน่า ข้าวกั้นจิ๊น เป็นต้น ราคาของอาหารที่ตลาดสายหยุดก็สุดแสนสบายกระเป๋า (กับข้าว เริ่มต้นเพียงห้าบาทสิบบาท เท่านั้น) รวมถึงขนมพื้นเมือง ผลไม้ ของทานเล่นต่าง ๆ เช่น ขนมเตน ขนมวง ถั่วแปยี ข้าวหย่ากู๊ ข่างปองเป็นต้น เรียกได้ว่ามาตลาดสายหยุดที่เดียวได้อาหารครบทั้งคาวหวาน

ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านผาบ่อง

ชุมชนแห่งนี้เป็นศูนย์ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตถั่วคั่วที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาเรียนรู้เที่ยวชมได้ หมู่บ้านผาบ่องเป็นแหล่งจำหน่ายถั่วเหลือง ถั่วลายเสือ ที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน  เป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ  4 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งภายในและภายนอกที่เดินทางมาท่องเที่ยวในเทศกาลต่างๆ ซึ่งชุมชนบ้านผาบ่อง นี้เป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น ชาวไทยใหญ่ และ กะเหรี่ยงขาว ซึ่งสามารถใช้ชีวิตบนความแตกต่างทางวัฒนธรรมร่วมกันอย่างมีความสุข 

หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว

กะเหรี่ยงคอยาว หรือ ปาด่อง เป็นชนกลุ่มน้อยมีถิ่นอาศัยอยู่เหนือแม่น้ำสาละวินในรัฐคะยา ประเทศสหภาพเมียนมา ใกล้ชายแดนไทยตอนเหนือ ชาวปาต่องอพยพเข้ามาอยู่ในเขตอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนเมื่อราว พ.ศ. 2528-2529 ในสมัยเกิดสงครามระหว่างกองกำลังกะเหรี่ยงกับกองทัพพม่า ซึ่งได้เข้ามาอยู่ที่หมู่บ้านน้ำเพียงดิน หมู่บ้านในสอย และที่หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันหมู่บ้านกะเหรียงคอยาวจะแปรสภาพไปตามสังคมที่เปลี่ยนไป ดูเป็นในลักษณะเชิงธุรกิจมากขึ้นไม่เป็นธรรมชาติของชุมชนและวิถีชีวิตดั้งเดิมเหมือนแต่ก่อน แต่ถึงอย่างไร กะเหรี่ยงคอยาวยังถือว่าเป็นไฮไลท์ของการท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนที่ยังได้รับความนิยมแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไม่เปลี่ยนแปลง

ปาย

อำเภอปาย  เป็นอำเภอเล็กๆ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โอบล้อมด้วยภูเขาสูงตระหง่าน จากระดับน้ำทะเล 600-1200 เมตร และมีแม่น้ำไหลผ่าน ซึ่งมีความสวยงามของธรรมชาติ เมืองที่โรแมนติก น่ารัก จนเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวเมืองปาย 

ปายมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิเช่น วัดน้ำฮู วัดพระธาตุแม่เย็น โป่งน้ำร้อนท่าปาย น้ำตกแม่เย็น กองแลน สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย หมู่บ้านจีนยูนาน ถนนคนเดินปาย จุดชมทะเลหมอกหยุนไหล เป็นต้น

ปายสามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่ที่นิยมมาก โดยเริ่มตั้งแต่ปลายฤดูฝนไปจนสุดปลายฤดูหนาวเพราะอากาศจะเย็นสบายมากที่สุด ส่วนช่วงปลายฤดูฝนจะได้ชมความสวยงามของทุ่งนาข้าวสีเขียวในขณะที่ในฤดูหนาวก็จะได้ชมทะเลหมอกสวยงามยามเช้า

จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล (ม่อนหยุนไหล)

เป็นจุดชมวิวที่งดงามอีกแห่งหนึ่งของอำเภอปายที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดแวะมาเชคอินและถ่ายรูปวิวทะเลหมอก จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหลตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านสันติชล อยู่ห่างจากตัวหมู่บ้านประมาณ 1.6 กิโลเมตร โดดเด่นด้วยรูปแบบของชาวพื้นเมืองเชื้อสายจีนยูนนาน คำว่า 'หยุนไหล' เป็นภาษาจีนกลาง หมายถึง แหล่งที่เมฆไหลมารวมกัน ซึ่งเปรียบเสมือนคนจีนยูนานที่อพยพมาจากเมืองจีน รวมกันมาตั้งถิ่นฐานที่บ้านสันติชล ชาวบ้านที่นี่เค้าทำสถานที่ไว้รองรับให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปหลายจุด สามารถมองเห็นเมืองวิวทิวทัศน์ของเมืองปายและสายหมอกที่รวมตัวกันเป็นก้อน ไหลดั่งสายน้ำท่ามกลางหุบเขา ที่รายล้อมไปด้วยแมกไม้และทิวเขาน้อยใหญ่ชวนตื่นตาตื่นใจ พร้อมไล่จับหมอกหนาว เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์และรอชมแสงแรกแย้มจากดวงอาทิตย์อันอบอุ่นในยามเช้า และเป็นสถานที่สุดโรแมนติกมีจุดคล้องกุญแจคู่รัก และป้าย “100 ที่บอกรัก” สำหรับคู่รักได้ถ่ายรูป 

หมู่บ้านห้วยห้อม

หมู่บ้านห้วยห้อม เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในอำเภอแม่ลาน้อย ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาในเขตรับผิดชอบของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย โดดเด่นในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ชมไร่และชิมกาแฟห้วยห้อม  กาแฟห้วยห้อมเป็นกาแฟพันธุ์อาราบิการที่รสชาติเข้มข้น ได้รับการยอมรับจากสตาร์บัค  รวมทั้งยังเป็นพื้นที่เพียงแห่งเดียวของไทยที่มีการเลี้ยงแกะแล้วสามารถนำมาผลิตผ้าทอขนแกะได้ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้ดื่มด่ำกับความงดงามของขุนเขา นาข้าวขั้นบันได ทะเลหมอก รวมทั้งวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญออีกด้วย

หมู่บ้านแม่ละอูบ 

หมู่บ้านแม่ละอูบตั้งอยู่ในตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย เป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่าลัวะหรือละว้า ตัวหมู่บ้านตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาน้อยใหญ่ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งชาวบ้านยังคงใช้วิถีชีวิตสุดเรียบง่าย มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ หาชมได้ยาก และที่นี่ยังเป็นแหล่งผลิตเครื่องเงินที่ดีที่สุดในแม่ฮ่องสอนอีกด้วย  หมุ่บ้านแม่ละอูบเดิมมีชื่อว่า โมซัมเบียง ซึ่งแปลว่า ภูเขาโมซัมเบียง ส่วนชื่อหมู่บ้านละอูบนั้น ได้มาจากในสมัยที่มีเจ้าหน้าที่จากภาครัฐเข้ามาสำรวจหมู่บ้านแล้วลืมหรือทิ้งอูบเอาไว้ (คำว่า ละ ภาษาเหนือหมายถึง ทิ้งไว้) จึงเป็นที่มาของชื่อบ้านละอูบนั่นเอง ชาวลัวะบ้านละอูบมีวัฒนธรรมการสร้างที่อยู่อาศัย การแต่งกายที่แตกต่างจากชาวไทยภูเขาเผ่าอื่น ๆ แต่เดิมนั้นชาวลัวะจะนับถือผี เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ แต่ปัจจุบันเมื่อความเจริญเข้ามาแทนที่ ความเชื่อต่าง ๆ เหล่านั้นก็ลดน้อยถอยลงไปตามกาลเวลาและการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยังคงวิถีชีวิตอันเรียบง่ายที่ใครก็ตามได้สัมผัสแล้วจะต้องรู้สึกประทับใจ 

ถ้ำแก้วโกมล

ถ้ำแก้วโกมล ตั้งอยู่ในวนอุทยานแก้วโกมล อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ถือเป็นถ้ำผลึกแคลไซต์แห่งที่ 2 ของโลก จาก 3 แห่ง (แห่งแรกอยู่ที่ประเทศจีน และแห่งที่ 3 คือประเทศออสเตรเลีย) ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำผลึกแคลไซต์ ที่ประกอบด้วยหินในตระกูลคาร์บอเนต ชนิดแอนไฮดรัสคาร์บอเนต ที่มีความใสกาวบริสุทธิ์มีรูปลักษณ์หลากหลายลักษณะ มีรูปผลึกอยู่ในระบบสามแกนราบ ส่วนใหญ่เป็นรูปหกเหลี่ยมยาวยอดแหลมหรือรูปสี่แหลมขนมเปียกปูน มีแนวแตกเรียบที่สมบูรณ์ 3 แนว เป็นสิ่งที่พบได้ยากในธรรมชาติ เพราะต้องมีองค์ประกอบที่ครบทั้ง หินปูน ไอน้ำร้อนที่ได้จะน้ำพูร้อนธรรมชาติ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ ไอสารละลายแคลเซียมไบคาร์บอเนตที่กลั่นตัวในอุณหภูมิสูงสุดและต้องอิ่มตัวในอุณหภูมิที่ต่ำสุด ภายในถ้ำจะมีผลึกแร่แคลไซค์ที่มีลักษณะคล้ายเกล็ดหิมะ ภายในถ้ำแบ่งเป็น 5 ห้อง  ได้แก่ ห้องที่ 1 พระทัยธาร , ห้องที่ 2 วิมานเมฆ , ห้องที่ 3 เฉกหิมพานต์ , ห้องที่ 4 ม่านผาแก้ว , ห้องที่ 5 เพลิดแพรวมณีบุปผา โดยทั้ง 5 ห้อง ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ซึ่งแต่ละห้องจะอยู่ถัดกันไปตามความลึกของถ้ำภายในถ้ำจะค่อนข้างชัน ยิ่งลึก ยิ่งสวยงามจับตา  

ถ้ำลอด

ถ้ำลอด เป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญและเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลผ่านกลาง จะต้องนั่งแพเข้าไปชม ภายในถ้ำน้ำลอดมีขนาดใหญ่มาก มีถ้ำที่น่าสนใจหลายจุด คือ ถ้ำลอด ซึ่งมีลำห้วยชื่อ น้ำลาง ไหลลอดภูเขาไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม จากการพบเครื่องมือเครื่องใช้โบราณในถ้ำ สันนิษฐานได้ว่าถ้ำมีอายุประมาณ 2,000 ปีแล้ว

ภายในถ้ำมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ภายในถ้ำยังประกอบด้วยห้องโถงใหญ่อีก 3 ห้อง ได้แก่ ถ้ำเสาหินหลวง เป็นถ้ำที่มีขนาดกว้างและมีหินงอกหินย้อยสวยงาม ถ้ำตุ๊กตา ที่เรียกกันตามลักษณะรูปร่างคล้ายตุ๊กตาของหินงอกที่เป็นปุ่มเล็ก ๆ เรียงรายอยู่มากมาย ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่กว้างและยาวที่สุดในถ้ำลอด อีกด้านหนึ่งของผนังถ้ำยังปรากฏภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และถ้ำสุดท้ายที่อยู่ด้านทางออกคือ ถ้ำผีแมน ที่นอกจากมีหินงอกหินย้อยสวยงามแล้ว ยังพบเศษภาชนะดินเผา เมล็ดพืช เครื่องมือหิน ซีกฟันและกระดูกของมนุษย์ รวมทั้งโลงผีแมนอีกด้วย

หมู่บ้านจ่าโบ่

บ้านจ่าโบ่ เป็นชื่อของชุมชนชาวเขาที่ตั้งอยู่ใน อ. ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน  ที่นี่นอกจากมีธรรมชาติที่สวยงามแล้วยังมีวิถีชีวิตชนเผ่าที่น่าสนใจและน่ามาเรียนรู้ เมื่อมีนักท่องเที่ยวเริ่มรู้จักและเดินทางแวะเวียนมามากขึ้น จึงได้มีการจัดตั้งการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเปิดบ้านเป็นโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบชาวเขาลาหู่ 

ที่หมู่บ้านจ่าโบ่มีร้านกาแฟและร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาที่มาพร้อมกับวิวหลักล้านแต่ขายอาหารแค่หลักสิบ นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ต่างประทับใจกับบรรยากาศชิล ๆ และวิวสวย ๆ ที่ประเมินค่าไม่ได้ โดยทางร้านได้ทำระเบียงยื่นออกไปเพื่อให้ลูกค้าได้นั่งห้อยขาชมวิว มองภูเขาที่สวยงามสลับซับซ้อนในมุม 360 องศา และในเวลาเช้าที่ร้านก็จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มารอชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น 

ถนนคนเดินปาย

ถนนคนเดินปาย แหล่งฮิปๆ และชิลๆ สำหรับนักท่องเที่ยว และเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มาพักที่ปายซึ่งจะออกมาเดินเล่นกันในเวลายามเย็น ถนนคนเดินปายเปิดในเวลาตอนเย็น ตั้งอยู่ในตัวเมืองปาย ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีของขายหลายอย่าง เสื้อผ้า ของกิน ของที่ระลึก งานแฮนด์เมด ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายทัวร์ ร้านอาหาร รวมไปถึงอาหารพื้นเมืองที่มาในรูปแบบของสตรีทฟู้ดอีกเพียบ  และยังเป็นถนนสำคัญของอำเภอปายที่สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อีกหลายแห่ง  

ถนนคนเดินปาย มีจุดเริ่มต้นจากชาวเขาและชาวบ้านในอำเภอปายที่ได้นำสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกมาขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จากแผงสินค้าเล็กๆ ต่อมาเริ่มมีพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาจับจองพื้นที่การขายกันมากขึ้น จนทำให้เกิดเป็นถนนคนเดินปาย และทางการอำเภอปายจึงร่วมมือปิดถนนชัยสงครามเริ่มจากที่ว่าการอำเภอปายจนถึงลำน้ำปายมีการปิดจราจรทำให้สองข้างทาง เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกชมเลือกซื้อสินค้าเป็นของฝากของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รูปภาพ โปสการ์ด ตลอดจนถึงร้านอาหารและแหล่งบันเทิงต่าง ๆ ที่อยู่บนถนนเส้นนี้ได้

หากบทความนี้ดีต่อใจ เชิญคนที่คุณรักมาเที่ยวกับ แม่ฮ่องสอน กรีน ทราเวล กันนะคะ

สนใจโปรแกรมทัวร์แม่ฮ่องสอน คลิก>>> อัพเดทโปรแกรมทัวร์แม่ฮ่องสอน 2567