อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มองขุนยวมเป็นแค่เมืองผ่าน แต่เมืองนี้มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ วัดวาอารามที่สวยงาม และที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นคือแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สองและตำนานรักระหว่างทหารญี่ปุ่นกับสาวไทใหญ่แห่งเมืองขุนยวมนั่นเอง

 

ไม่ไกลจากวัดม่วยต่อ เป็นที่ตั้งของ อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย - ญี่ปุ่น สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งศึกษาทางประวัติศาสตร์พื้นที่นับตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงยุคสร้างบ้านสร้างเมืองและเน้นหนักในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามมหาเอเชียบูรพาเนื่องเพราะมีผลกระทบกับพื้นที่และประชากรมากพอสมควรเป็นภาพอีกมุมมองหนึ่งของบทบาททหารญี่ปุ่นในประเทศไทยที่มีความแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ เป็นอย่างมาก

 

ภายในอนุสรณ์สถานแห่งนี้มีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และอาวุธของกองทัพทหารญี่ปุ่นที่ถูกค้นพบมาจัดแสดง มีทั้งอาวุธปืนชนิดต่างๆ กระสุนหลายขนาด ระเบิดหลายชนิด มีดดาบซามูไรแม้จะมีอายุเก่าแก่ แต่ก็ยังคงความคมกริบไว้ให้เห็น ชุดทหาร เครื่องใช้ต่างๆ แสดงแบบจำลองพื้นที่เดินเท้าของกองทัพ เป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ของที่นี่บรรยากาศภายในให้ความรู้สึกนึกถึงอดีตช่วงสงครามและความโหดร้ายในครานั้น ที่สำคัญที่สุดคือป้ายผ้าไหมญี่ปุ่น ขนาด 0.5X2 เมตร ซึ่งมีข้อความลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตที่ทรงประทานให้แก่กองทัพญี่ปุ่น มีเนื้อความกล่าวถึงเหตุผลที่ญี่ปุ่นต้องเข้าร่วมสงครามโลก กล่าวกันว่ามีเพียง 5 ผืนในโลก นอกจากของใช้ต่างๆ ของทหารญี่ปุ่นแล้ว บริเวณชั้นล่างก็มีห้องนิทรรศการแสดงวิถีชีวิตของชาวขุนยวม การสร้างบ้านลักษณะต่างๆ ตามรูปแบบวัฒนธรรมของชนเผ่า

 

ในระหว่างสงคราม กองทัพญี่ปุ่นได้มีแนวคิดในการสร้างเส้นทางส่งกำลังบำรุงจากประเทศไทยเข้าไปในพม่า โดยพิจารณาจากเส้นทางที่ใกล้ที่สุด เส้นทางเชียงใหม่-ตองอู ถูกกำหนดขึ้นโดยเริ่มจากบ้านแม่มาลัย อำเภอแม่แตง เข้าไปอำเภอปาย – อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน แล้วลงมาที่ขุนยวม ก่อนจะดำเนินการขุดต่อไปยังชายแดนไทย-พม่า ที่บ้านห้วยต้นนุ่น เข้าประเทศพม่าข้ามน้ำสาระวิน ไปบรรจบกับเส้นทางย่างกุ้ง – ตองอู เพื่อมุ่งหน้าไปยังตองอู และต่อไปยังชายแดนพม่า-อินเดีย แต่ท้ายสุดญี่ปุ่นต้องถอนกำลังกลับเพื่อฟื้นฟูกำลัง โดยใช้ขุนยวมเป็นแหล่งพำนักหลักเมื่อไม่สามารถตีเมืองอิมพาลและโคฮิมาที่ชายแดนอินเดีย และจะเข้าไปรุกต่อเมื่อมีความพร้อม แต่สุดท้ายฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทั้งระเบิดปรมาณู ที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ทำให้ประชาชนเสียชีวิตไปหลายแสนคน ทำให้สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น ทรงประกาศยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข ทหารญี่ปุ่นจึงต้องยอมรับความปราชัย ที่ไม่ยอมรับการพ่ายแพ้ก็ฆ่าตัวตาย โดยการคว้านท้องตัวเองด้วยซามูไรสั้นที่พกติดตัว

 

ตำนาน โกโบริ - อังสุมาลิน แห่งขุนยวม

นางแก้ว ถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นถิ่นฐานบ้านเกิด จนได้รับการขนานนามให้เป็นอังศุมาลินของเมืองไทย สืบเนื่องจากในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นได้เข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการในเขต อ.ขุนยวม ปรากฏว่ามีทหารญี่ปุ่นชื่อ สิบเอกฟูคูดะ ฮิเตียว ได้รับบาดเจ็บจากภัยสงครามเข้ามารักษาตัวกับ นายปั๋น จันทสีมา พ่อของนางแก้ว ที่มีความรู้ในด้านการรักษาสมุนไพร หรือหมอพื้นบ้านและได้ นางแก้ว คอยดูแลอย่างใกล้ชิดจนเกิดเป็นความรัก ทั้งคู่จึงครองรักกันจนมีพยานรักเป็นบุตรชาย1 คน แต่หลังจากที่ญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามทางการญี่ปุ่นได้รับตัว สิบเอกฟูคูดะ กลับไปบ้านเิกิด เป็นเหตุให้ทั้งคู่ต้องพรากจากกัน ปัจจุบัน นางเเก้ว ได้เสียชีวิตลงเเล้ว

 

ภาพจากบล็อก http://banjong4000.blogspot.com/2013/12/blog-post_8.html

 

 

Visitors: 84,436